- English
- ภาษาไทย
หลายคนมีความกังวลภายในใจ ถึงความเป็นห่วง ครอบครัว ลูก หรือคนที่รัก ว่าหากวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน แล้วพวกเขาจะอยู่ต่อกันอย่างไร จะลำบากหรือเปล่า จะตั้งหลักใช้ชีวิตอย่างไรต่อไป ตัวเราเองก็ไม่มีสิ่งของมีค่าอะไรที่จะไว้ให้พวกเขาได้ในวันที่เราไม่อยู่ แต่อย่าลืมไปว่ามีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้พวกเขาไว้เป็นมรดกนั่นก็คือ ประกันชีวิต
ประกันชีวิต คือ สัญญาระหว่าง บริษัทประกันชีวิตกับผู้เอาประกัน ดยผู้เอาประกันต้องจ่ายเบี้ยประกันให้ผู้รับประกัน หากผู้เอาประกันเกิดเสียชีวิตขณะที่กรมธรรม์มีผลบังคับภายในเงื่อนไขในกรมธรรม์ บริษัทประกันจะจ่ายเงินจำนวนหนึ่งให้กับผู้รับผลประโยชน์เรียกว่าเงินสินไหม ซึ่งหากจะกล่าวให้เข้าใจง่าย ก็คือ การที่เราทำประกันชีวิตนั้นน เป็นการซื้อการดูแลให้กับตัวเองล่วงหน้า สำหรับอันตรายต่างๆที่จะเกิดขึ้นที่ อาจทำให้เสียชีวิต พิการ หรือเสียอวัยวะใดๆไป หรือแม้แต่ยามแก่ชราที่เสียรายได้ไป ช่วยให้เราบริหารจัดการเงินได้ดีขึ้น เพราะเราจะมีวงเงินของประกันชีวิต ที่เข้ามาจ่ายให้เราตามที่ทำประกันไว้ หากเราเสียชีวิตไป ครอบครัวหรือผู้รับผลประโยชน์จะมีเงินก้อนมากพอที่จะตั้งหลัก ซึ่งการที่เราทำประกันชีวิต นั้นเปรียบเสมือน การที่เราทำมรดก ไว้ให้ครอบครัวและคนที่เรารัก โดยที่มรดกชิ้นนี้เราค่อยๆผ่อนจ่ายไป ในตอนที่เรายังมีแรงมีกำลังอยู่ ถึงแม้เราจะไม่มีมรดกเป็นบ้าน รถ ที่ดิน ไว้ให้ครอบครัวและคนที่เรารัก แต่อย่างน้อยกการที่เราทำประกันชีวิตไว้นั้น ก็เปรียบเสมือนว่าเราได้สร้างมรดกไว้ให้พวกเขาเรียบร้อยแล้ว
เพราะเราไม่รู้อนาคตได้ว่า วันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น วันนี้เรายังกอดกันได้ แต่พรุ่งนี้อาจไม่มีกันให้กอด ฉะนั้นเราจึงสร้างอนาคตไว้ดีที่สุดเพราะหากเกิดอะไรขึ้น เราจะไม่เสียใจที่เราได้ทำเลยและเมื่อเราทำ ประกันชีวิต เป็นมรดกไว้ให้พวกเขาแล้วนั้น วันที่เราไม่อยู่เราจะมั่นใจได้ว่าอย่างน้อยเราก็ยังมีเงินก้อนให้เขาได้ตั้งหลักก้าวเดินต่อไป