- English
- ภาษาไทย
การการเตรียมตัวสำหรับการรักษา
1. ผู้ที่มีความประสงค์ที่จะลดการพึ่งพาแว่นตา หรือคอนแทคเลนส์ เนื่องจากเกิดปัญหาในการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน หรือการประกอบอาชีพที่ไม่เอื้ออำนวย ต่อการใช้แว่นตา หรือคอนแทคเลนส์
2. ผู้เข้ารับการรักษาควรมีอายุอย่างน้อย 18 ปี และมีระดับสายตาคงที่อย่างน้อยเป็นเวลา 1 ปี เนื่องจากผู้ที่มีอายุไม่ถึง 18 ปี สายตาจะยังมีการเปลี่ยนแปลงเรื่อย ๆ ดังนั้นจึงควร รอให้อายุถึง 18 ปีเพื่อให้ค่าสายตาคงที่ ก่อนเข้ารับการรักษา
3. ไม่มีโรคที่เป็นข้อห้ามของการทำเลสิก เช่น โรคต้อหิน โรคจอประสาทตา หรือ โรค SLE
4. ไม่ควรอยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ เนื่องจากเป็นระยะที่ฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าสายตาเปลี่ยนแปลงไปด้วย จึงควรรอให้คลอดบุตรเสียก่อน
5. สำหรับผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป การรักษาเป็นการทำให้ระดับสายตากลับมาเป็นปกติ ดังนั้นอาจมีความจำเป็นต้องใช้แว่นในการอ่านหนังสือ เช่นเดียวกับคนสายตาปกติทั่วไป
6. มีความเข้าใจ และความคาดหวังที่ถูกต้องเกี่ยวกับการรักษาด้วยวิธีเลสิค
การเตรียมตัวเพื่อตรวจประเมินสายตา
1. ควรถอดคอนแทคเลนส์ล่วงหน้า แต่หากใส่แว่น สามารถนัดตรวจประเมินสภาพตาได้เลย เนื่องจากคอนแทคเลนส์จะกดทับกระจกตา การถอดคอนแทคเลนส์นี้เพื่อให้กระจกตาคืนรูปร่างตามธรรมชาติ เพื่อผลการตรวจที่แม่นยำมากที่สุดอย่างน้อย 3 วัน สำหรับคอนแทคเลนส์แบบนิ่ม อย่างน้อย 7 วัน สำหรับคอนแทคเลนส์แบบแข็ง
2. งดแต่งหน้า โดยเฉพาะบริเวณรอบๆ ดวงตา
3. งดฉีดสเปรย์และน้ำหอมทุกชนิด
4. หากเป็นไปได้ กรุณาสวมเสื้อที่มีกระดุมด้านหน้า
5. อาบน้ำ สระผมให้เรียบร้อย
6. ควรพาเพื่อนหรือญาติมาด้วยเพื่อนำท่านกลับบ้าน
การวิเคราะห์สภาพตาก่อนการรักษา
เมื่อท่านตัดสินใจทำการรักษา ท่านจะต้องผ่านการตรวจ โดยจักษุแพทย์ตามขั้นตอน ได้แก่
1. ตรวจวัดการมองเห็น
2. ตรวจสภาพจอประสาทตา
3. ตรวจวัดความโค้งส่วนหน้า ( Corneal Topography )
4. ตรวจวัดความโค้งส่วนหน้าและส่วนหลัง ( Pentacam )
5. ตรวจวัดความหนาของกระจกตา ( Pachymetry )
6. วิเคราะห์สภาพสายตา ( Wave front analyzer )
หากท่านใดที่สนใจอยากทำเลสิก เราขอแนะนำ ศูนย์เลสิค Laser Vision ศูนย์เลสิกที่มีประสบการณ์ยาวนานในการรักษาสายตาด้วยวิธีการเลสิคกว่า 18 ปี พร้อมทั้งเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ได้รับมาตราฐานระดับสากล และนอกจากนี้ การเตรียมร่างกายให้พร้อมตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด จะช่วยให้ผลการรักษาออกมาอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด