ถังบำบัดน้ำเสียกับกฎหมายอาคาร เรื่องสำคัญที่เจ้าของบ้านห้ามมองข้าม

การสร้างบ้านอยูู่อาศัยสักหลัง ไม่ได้มีแค่การเลือกวัสดุสวยๆ หรือออกแบบบ้านให้โดนใจเท่านั้น แต่ยังมีอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ เจ้าของบ้านหลายคนอาจมองข้าม นั่นคือ “ระบบบำบัดน้ำเสีย” ซึ่งจำเป็นต้องติดตั้ง ถังบำบัดน้ำเสียให้ถูกต้องตามกฎหมายอาคาร และถ้าหากไม่ปฏิบัติตาม อาจมีปัญหาในอนาคตทั้งด้านกฎหมาย สิ่งแวดล้อม และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็นได้

กฎหมายอาคารที่เกี่ยวข้องกับถังบำบัดน้ำเสีย

ตาม พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และ กฎกระทรวง ฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2543) ได้กำหนดว่า

"อาคารประเภทบ้านพักอาศัย อาคารพาณิชย์ หรืออาคารใดก็ตามที่มีระบบสุขาภิบาล ต้องมีการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ"

ดังนั้น การติดตั้งถังบำบัดน้ำเสีย เป็นสิ่งที่จำเป็นตามกฎหมาย เพื่อป้องกันการปล่อยน้ำเสียที่ไม่ผ่านการบำบัด ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพชุมชนโดยรอบ

หากไม่ติดตั้งถังบำบัดน้ำเสียตามกฎหมาย จะเกิดอะไรขึ้น?

  • อาจถูกสั่งให้ปรับปรุงอาคาร หรือรื้อถอนระบบสุขาภิบาลที่ไม่ถูกต้อง
  • มีโอกาสถูกแจ้งความผิด หรือ เสียค่าปรับทางกฎหมาย
  • สร้างปัญหาให้เพื่อนบ้านหากมีการปล่อยน้ำเสียโดยตรงลงสู่พื้นที่สาธารณะ
  • ทำให้การขออนุญาตปลูกสร้าง/ดัดแปลง/โอนกรรมสิทธิ์ล่าช้าหรือไม่ผ่าน

แนวทางการติดตั้งถังบำบัดน้ำเสียให้ถูกกฎหมาย

  • เลือกขนาดถังบำบัดน้ำเสียให้เหมาะสม กับจำนวนคนในบ้าน (ทั่วไปใช้ขนาด 600 – 1600 ลิตร)
  • ใช้ถังที่ได้มาตรฐาน มอก. หรือได้รับการรับรองจากหน่วยงานรัฐ
  • ติดตั้งโดยช่างหรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้วางแนวท่ออย่างถูกต้องและปลอดภัย
  • วางแผนการดูแลและบำรุงรักษา เช่น ดูดส้วม หรือบำรุงแบคทีเรียในถังอย่างสม่ำเสมอ

ถังบำบัดน้ำเสีย ไม่ใช่แค่เรื่องของสุขอนามัย แต่ยังเป็นส่วนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับ กฎหมายอาคาร ที่ทุกบ้านต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากคุณเป็นเจ้าของบ้านที่กำลังวางแผนสร้างหรือปรับปรุงบ้าน อย่าลืมตรวจสอบและติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียให้ถูกต้อง เพื่อความปลอดภัย ความสะอาด และการอยู่อาศัยที่ยั่งยืนในระยะยาว หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านถังบำบัดน้ำเสียที่ไว้วางใจได้ สามารถติดต่อสอบถามเข้ามาได้ที่ DOS Life